Tuesday, June 12, 2007

บริหารใจ…ด้วยไดอารี่บันทึกอารมณ์

โดย ดร. อัญชลี กิ๊บบิ้นส์



มื้อกลางวันของคนทำงานในปัจจุบัน มีไม่น้อยทีเดียวที่กลายเป็น “มื้อลดบุญ” โดยที่เราไม่รู้ตัว นั่งประณามลูกน้องบ้าง นินทาเจ้านายบ้าง หรือไม่ก็ว่าร้ายเพื่อนร่วมงาน น้อยกลุ่มนักที่จะนั่งมองตัวเองว่า ครึ่งเช้าที่ผ่านมา เราโกรธ เราโมโห เราเกรี้ยวกราด เพราะอะไร เรายินดี เราแบ่งปันอะไรกับใครที่เกี่ยวข้องในชีวิตช่วงเช้าเราบ้างไหม เราจะคุมสติให้ชีวิตครึ่งบ่ายผ่านไปได้อย่างไร โดยที่ใจเราเองมีสุข และไม่ต้องทำให้ผู้อื่นได้ทุกข์ใจ และไม่ต้องเอาเรื่องน่าเบื่อหูจากที่ทำงานกลับไปบ่นต่อที่บ้าน หรือแปลงสัญญาณเป็นความหงุดหงิดแล้วระบายกับลูกๆที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร

ถ้าจะเปรียบไป อาการนี้เหมือนกับว่า เรามองไม่เห็นตัวเอง เราละเลยที่จะมองเข้าไปถึงในใจ ในอารมณ์เราเอง พอเรามองไม่เห็นตัวเอง เราก็จะเห็นแก่ใครไม่ได้ นอกจากเห็นแก่ตัว

การมองไม่เห็นตัวเอง สังเกตได้ง่ายๆ ก็คือ ไม่รู้ตัวว่ากำลังคิดอะไรอยู่ กำลังปฎิบัติอย่างไรต่อใคร หรือรู้ว่าคิดอะไรอยู่แต่ไม่สามารถควบคุมความคิดของตัวเองได้ ปล่อยให้ใจมันคิดต่อไปอย่างเตลิดเปิดเปิง มองแต่ว่า คนอื่นคือต้นตอของปัญหา คนนั้น คนโน้น สร้างปัญหา

จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้กำลังจะบอกว่าให้หันมาโทษตัวเองว่าเป็นปัญหา แต่อยากจะให้หันมาฝึกตัวเองแทน ฝึกตัวเองในที่นี้คือ ฝึกใจตัวเอง ซึ่งฝึกยาก เพราะใจเรา ใช้ระบบปฏิบัติการแบบดิจิตอล ชนิดที่ปฏิบัติการแต่ละแว๊บรวดเร็วขนาดที่แทบจะเหนือกว่าความไวแสง

เรื่องนี้พิสูจน์ได้...
แค่ลองเฝ้ามองตัวเองซักห้านาที ลองย้ายใจไปไว้ที่ปลายจมูกแล้วตามนับให้ตลอดได้ไหมว่า สายลมหายใจเข้าออกของเราสัมผัสปลายจมูกเราเองกี่คู่แล้ว โดยที่เราไม่เปิดช่องว่างให้ใจเราไปยุ่งกับเรื่องอื่น ออกจะยากสำหรับบางคน

ถ้าจะฝึกแบบง่ายๆและได้ผลดีไม่น้อย ก็ต้องนี่เลย ทำไดอารี่บันทึกอารมณ์ เอากระดาษมาแผ่นหนึ่ง แล้วทำเครื่องหมายบวกอันใหญ่ไว้กึ่งกลางหน้า เพื่อจะแบ่งช่องให้ได้สี่ช่องบนแผ่นกระดาษ ช่องบนด้านซ้าย เอาไว้บันทึกเรื่องราวที่มากระทบและเป็นเหตุให้เราอารมณ์ดีช่วงเช้า ช่องบนขวาเอาไว้บันทึกเหตุแห่งอารมณ์ไม่ดีช่วงเช้า ส่วนช่องล่างซ้ายก็เอาไว้บันทึกอารมณ์ดีดีของช่วงบ่าย บันทึกด้วยว่าอะไรคือสาเหตุที่จุดอารมณ์ดีให้ตัวคุณ อีกช่องที่เหลือช่องล่างด้านขวา ก็เป็นที่ว่างไว้บันทึกเรื่องราวของอารมณ์ไม่ดีที่เข้ามากระทบช่วงบ่ายของตัวเอง ลองตามอารมณ์ให้เจอ แล้วสำรวจสาเหตุ ก่อนที่เราจะวิ่งไปหาใครให้มาเข้าข้างเรา หรือปล่อยอารมณ์เตลิดเปิดเปิงจนใจไม่สงบ แล้วเอากลับมาพิจารณา ต่อยอดช่องดี ให้ได้ดีมากขึ้น ละลดเหตุและวางเรื่องที่ก่ออารมณ์ไม่ดี อ่านบันทึกนี้ก่อนนอนทุกวัน ตามอารมณ์เราให้เจอ เราจะรู้ว่า อะไรทำให้เราทุกข์ อะไรทำให้เราสุข เราจะบริหารใจเราอย่างไรที่จะละ วาง ให้ความทุกข์ หรืออารมณ์ที่บั่นทอนใจสบายของเราลงไปได้

ชีวิตที่พัฒนาได้คือ ชีวิตที่เรียนรู้ตลอดเวลาจากความผิดพลาด ตามอารมณ์ให้เจอ แล้วพิจารณาอารมณ์อย่างมีสติ อย่างน้อยพรุ่งนี้ก็ต้องสุขมากกว่าวันนี้

No comments: