Tuesday, June 12, 2007

บริหารใจ...แบบประกันความสุข

โดย ดร. อัญชลี กิ๊บบิ้นส์



เคยถามตัวเองบ้างไหมคะว่า สวดมนต์ไปทำไม ทำไมต้องสวดมนต์ พอยิ่งได้มีโอกาสไปได้ยินเสียงสวด “พุธธัง สรณัง คัจฉามิ....” รอบแล้วรอบเล่าที่เปิดเป็น ambiance music ที่สนามบินเมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย ยิ่งทำให้เราต้องค้นหามากขึ้นว่าทำไม

หลักปฏิบัติในชีวิตประจำวันของชาวพุทธ ไขข้อข้องใจเราได้อย่างสนิท สามสิ่งที่เราควรกระทำในแต่ละวันของชีวิตคือ หนึ่ง รักษาศีล สอง สวดมนต์ สาม ปฏิบัติธรรมฝึกสมาธิ การที่เราได้ปฏิบัติกันอย่างครบถ้วนทั้งสามวิธีในแต่ละวันอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เราเข้าถึงความสุขได้ง่ายขึ้น ได้ชื่อว่าทำบุญกันทุกวัน รับบุญกันไปเต็มๆ แถมเป็นวิธีที่ทำให้เราทำชั่วไม่ขึ้น

วิธีแรกนับเป็นแกนหลัก และเป็นแกนสำคัญที่จะทำให้เราปฏิบัติอีกสองวิธีที่ตามมาได้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่า ไม่มีวิธีแรกคือ รักษาศีล สวดมนต์ไปก็ไม่ได้ให้พลังอะไร เพราะเราไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วเราไปสวดมนต์ระลึกถึงคุณคำสอนของท่าน สวดไปอย่างไร้ความหมาย ขาดพลัง ขาดความจริงใจว่างั้นก็ได้ แล้วก็ยังผลต่อให้เราฝึกสมาธิอย่างสงบใจไปเสียไม่ได้

เดี๋ยวนี้ได้ยินการตีความที่มาของศีลห้าอย่างน่าสนใจไม่น้อย ไม่ใช่แต่ว่า อย่าฆ่าสัตว์ มันบาป อย่าโกหก มันบาป อย่าลักขโมย มันบาป เรารู้จักแต่ว่าทำแล้วบาป แต่พอได้ฟังการตีความอย่างเป็นเหตุเป็นผล และเห็นภาพได้มากขึ้น จากพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ก็รู้สึกว่าวันนี้เราถือศีลห้าอย่างนักปราชญ์ ศีลห้าเป็นเสมือนแผนประกันความสุข ที่ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน แต่รับปันผลเป็นตัวบุญเต็มๆ เริ่มจากศีลข้อแรก ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ห้ามทำร้าย รังแกทารุณสิ่งมีชีวิตให้ลำบากเดือดร้อน ข้อนี้ท่านว่า คือหลักประกันชีวิต รับรองไม่มีใครต้องถูกปองร้าย ไม่ต้องระแวดระวัง พัฒนาขีปนาวุธกันยกใหญ่ จะมีก็แต่ว่า ชีวิตล่วงไปตามธรรมดาโลก เกิด แก่ เจ็บ ตาย ศีลข้อที่สอง ห้ามพูดปด หรือพูดเสียดสี หยาบคาย ข้อนี้คือหลักประกันสังคม หลายเหตุการณ์ที่เกิดเป็นปัญหาสังคมก็ล้วนแต่เกิดมาจากความไม่ซื่อตรงการหลอกลวงในเชิงธุรกิจ การเหยียดหยามหรือพูดจาโจมตีซึ่งกันและกัน จนเกิดเป็นปัญหาสังคมเหมือนที่เห็นเป็นข่าวอยู่ทุกวัน ข้อที่สาม ห้ามลักทรัพย์หรือถือเอาทรัพย์คนอื่นมาเป็นทรัพย์เราโดยที่เขาไม่อนุญาต ข้อนี้คือหลักประกันทรัพย์สิน ของเราก็ไม่หาย ของเขาก็อยู่กับเขา ถ้าแต่ละคนปฏิบัติตามข้อห้ามนี้ได้ ไม่ต้องล็อครั้ว ไม่ต้องมัวแต่พะวงจนนอนไม่หลับ ข้อที่สี่ห้ามประพฤติผิดในกาม เว้นขาดจากการแย่งชิงของรักของหวงของผู้อื่น ข้อนี้คือ หลักประกันครอบครัว ปัญหาครอบครัวที่เราเห็นกันในปัจจุบัน ก็เกิดจากการแหกกฎข้อนี้นั่นเอง ไม่สำนึกรับผิดชอบต่อคนรักและครอบครัวของตนเอง และข้อสุดท้ายห้ามดื่มสุราหรือเสพของมึนเมาและเกี่ยวข้องจนติดอบายมุข ข้อนี้คือหลักประกันสุขภาพ

เราเห็นกันเยอะ เดี๋ยวนี้ชีวิตเราสมบูรณ์น้อยลงทุกวัน ความสุขเหลือน้อยเต็มที ชีวิตที่มันน่าจะเบิกบานและเรียบง่าย กลายเป็นชีวิตที่มากไปด้วยความซับซ้อน เต็มกังวล ลองเริ่มตั้งหลักทำดีแบบครบวงจรทั้งห้าในแต่ละวัน เพื่อ ชีวิต ทรัพย์สิน สังคม ครอบครัว คนรัก และสุขภาพ ไม่ให้องค์ประกอบใกล้ตัวอย่างใดอย่างหนึ่งนี้ต้องสั่นคลอน ความสุขก็มีได้ในทุกวัน

No comments: